“โจ ณัฐวุฒิ” ร่วมแสดงความยินดีกับผู้ชนะ “ตะวันฉาย พีเค.แสนชัย” พร้อมยอมรับดีใจมากที่แฟนคลับชื่นชอบในสไตล์การชกของตนมากขนาดนี้
กลายเป็นกระแสที่แฟนกีฬาพูดถึงกันอย่างล้นหลามสำหรับ “โจ ณัฐวุฒิ” นักชกจากจังหวัดนครราชสีมา วัย 34 ปี ที่ระเบิดฟอร์มสู้กับ “ซ้ายดารา” ตะวันฉาย พีเค.แสนชัย แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต (145-155 ป.) ในกติกาคิกบ็อกซิ่ง ได้อย่างสนุกสุดมันตลอดทั้ง 3 ยก ก่อนสุดท้ายจะเป็นฝ่ายแพ้ไปด้วยคะแนนเอกฉันท์ ในศึก ONE Fight Night 15 เมื่อวันเสาร์ที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา
โดยแม้ไฟต์นี้จะถือเป็นครั้งแรกในรอบ 1 ปี 2 เดือน ที่ “โจ” ต้องกลับมาขึ้นสังเวียน แต่กลับสามารถทำผลงานได้ออกมาอย่างเยี่ยมยอด ทำเอาเจ้าตัวรู้สึกพอใจกับฟอร์มการชกของตัวเองเป็นอย่างมาก และแม้จะมีความมั่นใจว่าตัวเองดีพอจะเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ แต่ในเมื่อผลการตัดสินออกมาเป็น “ตะวันฉาย” ที่ชนะไปด้วยคะแนนเอกฉันท์ “โจ” ก็ขอแสดงความยินดีกับนักชกรุ่นน้องรายนี้จากใจจริง
“ไฟต์นี้ถ้าคะแนนเต็ม 10 ผมให้ตัวเอง 20 เลยครับ ผมพอใจฟอร์มของตัวเองมาก ผมออกอาวุธได้ดีกว่าที่คิดไว้เยอะ”
“ส่วนตอนยืนรอฟังผลการตัดสิน ผมมั่นใจพอสมควรเลยนะว่าจะเป็นฝ่ายชนะ แม้สุดท้ายผลการตัดสินผมจะแพ้ไป แต่ผมเคารพการตัดสินของกรรมการ เพราะกรรมการเขาอาจมีมุมมองที่เห็นละเอียดกว่าเรา กรรมการเขานั่งใกล้เวทีมากๆ และอาจมองเห็นในมุมที่คนดูทั่วไปมองไม่เห็นครับ ก็ขอแสดงความยินดีกับน้อง ตะวันฉาย ด้วยครับ”
การที่ “โจ” สามารถยืนต่อกรกับนักชกแชมป์โลกอย่าง “ตะวันฉาย” ได้อย่างสนุกสูสีตลอดทั้งสามยก ทำให้แฟนกีฬาการต่อสู้ทั้งไทยและต่างชาติ ต่างแสดงความชื่นชมในฝีไม้ลายมือของ “โจ” กันอย่างล้นหลาม โดย “โจ” ยอมรับว่ารู้สึกดีใจมากที่สามารถทำให้ทุกคนรู้สึกสนุกได้มากที่สุดในการแข่งขันครั้งนี้
“รู้สึกดีใจมากครับที่ทุกคนชื่นชอบฟอร์มการชกของผมมากขนาดนี้ แม้ผมจะมีเวลาซ้อมจริงๆไม่ถึงอาทิตย์ด้วยซ้ำ การเดินทางมาประเทศไทยในไฟต์นี้ ในหัวผมคิดอย่างเดียวว่าต้องทำให้ทุกคนสนุกกับการแข่งขันให้ได้ ต้องทำให้ทุกคนชอบคู่ของเราให้ได้ ผมขอบคุณทุกคนมากครับที่ชื่นชอบในสไตล์การชกของผม แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้า ผมจะมาเต็มที่แน่นอนครับ”
ปัจจุบัน “โจ ณัฐวุฒิ” ขอใช้เวลาว่างเดินทางกลับไปพักผ่อนที่บ้านเกิด จ.นครราชสีมา ก่อนจะออกเดินทางกลับสหรัฐอเมริกาในสัปดาห์หน้า พร้อมแสดงความมั่นใจในสภาพร่างกายในวัย 34 ปีของตนเองว่ายังแข็งแกร่งพอที่จะพุ่งไปสู่จุดสูงสุดในช่วงโค้งสุดท้ายของอาชีพได้
“ตอนนี้ผมกลับมาพักผ่อนที่บ้านที่โคราชครับ และจะบินกลับอเมริกาในวันพุธที่ 18 ต.ค.นี้ครับ กลับไปถึงผมก็จะไปรับสัญชาติอเมริกาก่อน แล้วก็ทำงาน ซ้อมมวย ใช้ชีวิตสนุกๆ เล่นสโนว์บอร์ดด้วยครับ ส่วนแผนการในอนาคต ผมไม่ได้วางแผนอะไรมาก แต่อย่างน้อยการได้มาชกครั้งนี้ ทำให้ผมได้เห็นว่าร่างกายของผมมันยังไปต่อได้ ยังไปสู่จุดสูงสุดได้ ซึ่งไฟต์ต่อไปผมก็อยากจะทำผลงานให้ออกมาดียิ่งขึ้นกว่านี้ครับ”
สำหรับครั้งต่อไปศึก ONE Fight Night 16 คู่เอกนำรายการเป็นการเปิดศึกแชมป์ชนแชมป์ระหว่าง “โจนาธาน แฮ็กเกอร์ตี” แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต (135-145 ป.) พบกับ “ฟาบริซิโอ อานดราเด” แชมป์โลก ONE MMA รุ่นเดียวกัน โดยมีเข็มขัดแชมป์โลกคิกบ็อกซิ่ง ONE รุ่นแบนตัมเวต ที่ว่างเป็นเดิมพัน ถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในช่วงเวลาไพรม์ไทม์อเมริกา ซึ่งตรงกับเวลา 07:00 น. ของวันเสาร์ที่ 4 พ.ย.นี้
แฟนกีฬาสามารถจองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง THAI TICKET MAJOR และติดตามข่าวสารอัปเดตของศึกนี้ได้ที่เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand, เว็บไซต์ ONEFC.com และอินสตาแกรม ONEChampTh
