นับตั้งแต่เลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในพรีเมียร์ลีกเมื่อปี 2017 ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน ก็สามารถประคองตัวอยู่รอดได้ตลอด และแทบทุกปีพวกเขาต้องเสียผู้เล่นคนสำคัญให้กับสโมสรยักษ์ใหญ่ แต่สิ่งที่ทำให้ยืนหยัดได้คือ การมองหานักเตะใหม่เข้ามาทดแทน
ในซัมเมอร์นี้ ไบรท์ตัน ต้องเสีย 2 กองกลางอย่าง มอยเซส ไคเซโด และ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ให้กับ เชลซี และ ลิเวอร์พูล ตามลำดับ ด้วยค่าตัวมูลค่ารวมกันกว่า 170 ล้านปอนด์ แต่ทีมของ โรแบร์โต เดอ แซร์บี เทรนเนอร์ชาวอิตาเลียน ยังคงรั้งอันดับ 6 ในตารางคะแนน
เดอ แซร์บี เริ่มกล่าวว่า “เราเพิ่งอยู่ที่จุดเริ่มต้น เราต้องเล่นในแบบของเราและเก็บชัยชนะต่อไป เราอยากจะอยู่อันดับต้นๆของตารางคะแนน เรารู้ว่ามันยากมาก แต่คุณภาพการเล่นของเราทำให้ผมประทับใจมาก เรายิงประตูได้มากมาย แต่เรายังคงเล่นได้ดีขึ้น และทำประตูได้มากขึ้นกว่านี้อีก”
ในช่วงออกสตาร์ตฤดูกาล 2023/24 นักเตะ ไบรท์ตัน โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมหลายคน อาทิ คาโอรุ มิโตมะ ปีกทีมชาติญี่ปุ่น ซึ่งเป็นตัวหลักมาตั้งแต่ปีที่แล้ว เพอร์วิส เอสตูปิยาน แบ็กซ้ายจอมลุย, อีวาน เฟอร์กูสัน กองหน้าวัย 18 ปี และ ฮูลิโอ เอ็นซิโซ เพลย์เมกเกอร์วัย 19 ปี ที่เพิ่งโชคร้ายได้รับบาดเจ็บ
เดอ แซร์บี กล่าวว่า “คาโอรุ มิโตมะ สุดยอดมากในการดวล 1 ต่อ 1 กับคู่แข่ง ส่วน อีวาน เฟอร์กูสัน และ ฮูลิโอ เอ็นซิโซ มีความสามารถเกินอายุของพวกเขา พวกเขาเป็นผู้เล่นที่โดดเด่นในพรีเมียร์ลีกอยู่แล้ว และเราโชคดีที่มีพวกเขาอยู่ในทีม”
“เฟอร์กูสัน เป็นผู้เล่นที่สำคัญมาก เรามีตัวรุกเยอะมาก และผมต้องตัดสินใจเลือก 11 ตัวจริงโดยขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของนักเตะ และลองพิจารณาอาการบาดเจ็บของผู้เล่นคนอื่นๆ เหมือนกับในตอนนี้ ผมเสียใจมากกับอาการบาดเจ็บของ ฮูลิโอ คุณรู้ไหมว่าอาการบาดเจ็บเกิดขึ้นได้เสมอในวงการฟุตบอล เขาต้องตอบสนองในทางที่ดี และกลับมาดีขึ้น”
โค้ชเลือดมะกะโรนีเข้ามารับงานต่อจาก เกรแฮม พ็อตเตอร์ เมื่อเดือนกันยายนปี 2022 และใช้สไตล์ฟุตบอลที่น่าตื่นเต้นในการทำทีม พร้อมกับทำให้พลพรรค “นกนางนวล” จบฤดูกาลด้วยอันดับ 6 ในตารางคะแนนเมื่อปีที่แล้ว
เดอ แซร์บี กล่าวต่อว่า “เราต้องแสดงความกล้าหาญ เราแสดงความอดทน เราควบคุมเกม เราต้องแสดงตัวตนในสนาม เราต้องสนุกสนานในสนาม และทำให้แฟนบอลของเรามีความสุข นี่คือแนวทางการทำงานของผม”
ขณะเดียวกัน เดอ แซร์บี ยังเป็นผู้จัดการทีมที่เชื่อมั่นในตัวนนักเตะอยู่เสมอ โดยเจ้าตัวระบุว่า “ผมให้ไอเดียกับผู้เล่นของผม พวกเขาฉลาดมาก และแสดงมันออกมาได้ชัดเจนมาก พวกเขาเข้าใจการไล่บีบคู่แข่ง เข้าใจการส่งบอล ผมให้คำแนะนำได้ แต่เมื่ออยู่ในสนาม พวกเขาต้องตัดสินใจด้วยตัวเอง”
“ผมคิดว่า ปีนี้เราเน้นเล่นเกมรุกทางฝั่งซ้ายมากกว่าเดิม เพราะว่า เอสตูปิยาน เป็นผู้เล่นที่มีเอกลักษณ์ เขาเป็นฟูลแบ็ก แต่เขาโจมตีเหมือนปีก ซึ่งทำให้ทางด้านซ้ายเรามีปีก 2 คน มันอาจเป็นไปไม่ได้ที่ผมพูด แต่มันเป็นเรื่องจริง”
“เอสตูปิยาน เป็นผู้เล่นคนสำคัญสำหรับเรา เขาเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม ผมคิดว่าเขาพัฒนาขึ้นในหลายๆอย่าง เขาสามารถพัฒนาและดีขึ้นกว่าเดิมได้ และเขาก็เป็นหนึ่งในฟูลแบ็กที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีกตอนนี้”
ไบรท์ตัน ได้กำไรมากมายจากการขายนักเตะตลอด 3 ซีซันหลังสุด ไล่ตั้งแต่ เบน ไวต์ (50 ล้านปอนด์), มาร์ค คูคูเรญา (63 ล้านปอนด์), อีฟส์ บิสซูมา (35 ล้านปอนด์), นีล โมเปย์ (15 ล้านปอนด์), แดน เบิร์น (13 ล้านปอนด์), ไคเซโด (115 ล้านปอนด์), แม็ค อัลลิสเตอร์ (55 ล้านปอนด์), เลอันโดร ทรอสซาร์ (27 ล้านปอนด์) และ โรเบิร์ต ซานเชซ (25 ล้านปอนด์)
เดอ แซร์บี ให้ความเห็นว่า “เราสูญเสียผู้เล่นที่สำคัญมากไป 3 คนในช่วงซัมเมอร์นี้ ได้แก่ ไคเซโด, แม็ค อัลลิสเตอร์ และ ลีวาย โคลวิลล์ (หมดสัญญายืมตัวจาก เชลซี) แต่เรายังเป็นทีมอายุน้อย เราสามารถส่งผู้เล่นอายุ 18 หรือ 19 ปี ลงสนามได้ 2 คนแบบไม่มีปัญหา”
“ผมไม่ได้ตัดสินใจเลือก 11 ตัวจริง เพียงขึ้นอยู่กับอายุของนักเตะ เพราะเรื่องอายุสำหรับผมมันไม่สำคัญ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ คุณภาพ ถ้าคุณอายุ 18 ปี แต่เล่นดีกว่าคนอายุ 33 ปี ผมก็ให้โอกาสได้ นั่นไม่ต้องสงสัยเลย”
“เจมส์ มิลเนอร์ อายุมากแล้ว แต่วิ่งได้เหมือนเด็กอายุ 18 ปี และประสบการณ์ของเขานั้นยอดเยี่ยมมาก ทัศนคติ, แรงจูงใจ และพฤติกรรมของเขา แต่ถ้านักเตะคนอื่นสมควรได้เล่นแทน มิลเนอร์ ผมก็ไม่ลังเลเลย และผมก็ไม่มีปัญหาใดๆทั้งสิ้น”
สำหรับแนวทางของ ไบรท์ตัน ชัดเจนมาตลอด และ เดอ แซร์บี ก็ทำงานภายใต้ข้อจำกัดได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกใจเลยหาก “นกนางนวล” จะได้บินสูงในพรีเมียร์ลีกไปอีกหลายปี