อันโตนิโอ มาร์การิโต้ อดีตกำปั้นแชมป์โลก รุ่นเวลเตอร์เวต ออกมาสารภาพถึงการตัดสินใจผิดพลาดครั้งใหญ่ในชีวิตกำปั้นของตัวเองที่ส่งผลต่อสภาพร่างกายของเจ้าตัวในปัจจุบันกับทาง ESPN สื่อใหญ่บ้านเกิด

โดย อดีตนักชกวัย 45 ปี ออกมาเปิดใจถึงไฟต์เมื่อปี 2010 ที่เผชิญหน้ากับ “เดอะ แพ็คแมน” แมนนี่ ปาเกียว ยอดนักชกชาวฟิลิปปินส์ ในการเดินพันเข็มขัดแชมป์สภามวยโลก (WBC) รุ่นไลต์มิดเดิ้ลเวต

ซึ่งครั้งนั้นถือเป็นการชกที่ทำให้เจ้าตัวบอบช้ำมากที่สุดในชีวิต และส่งผลต่ออาชีพในระยะยาวจนสุดท้ายต้องตัดสินใจแขวนนวมเพราะพิษบาดแผลที่ฝังลึก เพราะสภาพใบหน้าของ มาร์การิโต้ เริ่มบวมปูดตาขวามองไม่เห็นตั้งแต่เข้าสู่ช่วงยกที่ 4 หลังจากที่โดนพายุหมัดของ ปาเกียว

ภายหลังการชกครบ 12 ยก แมนนี่ ปาเกียว เป็นฝ่ายเอาชนะคะแนนไปได้แบบเอกฉันท์ หลังจากที่ปล่อยหมัดเข้าใบหน้าของคู่ชกไปมากถึง 474 หมัด ผลก็คือ มาร์การิโต้ กระดูกเบ้าตาขวาแตกทำให้บวมปิดสนิท ขณะที่ข้างซ้ายก็เกือบปิดสนิทเช่นกัน และทำให้ต้องพักรักษาตัวนานกว่า 10 เดือนกว่าจะกลับคืนสังเวียน

“ความจริงก็คือทีมงานพูดกับผมตอนเดินกลับไปที่มุมว่า ใบหน้าของผมนั้นแย่มาก แต่ผมบอกกับพวกเขาว่าห้ามโยนผ้ายอมแพ้เด็ดขาด ผมคิดว่าผมจะพลิกเกมเอาชนะเขาได้”

“ในยกที่ 7 ที่ผมปล่อยหมัดฮุกเข้าลำตัวของปาเกียว ผมรู้ได้อย่างชัดเจนว่าเขารู้สึกแย่ แม้แต่ตัวเขาก็เคยออกมาพูดถึงมันด้วย มันทำให้ผมมีความหวัง แต่ทีมงานของผมบอกว่าอาจถึงเวลาที่ต้องหยุดแล้ว”

“แต่ผมยังไม่อยากยอมแพ้ เพราะผมหวังว่าจะเอาชนะเขาได้ แต่ผมคิดผิดจริงๆ ผมควรจะยอมแพ้ไม่ออกจากมุม เพราะเส้นทางอาชีพของผมจบลงจากอาการบาดเจ็บตั้งแต่ไฟต์นั้น” กำปั้นชาวสหรัฐฯ เปิดใจถึงเรื่องราวในอดีตที่ส่งผลต่อสายตาของเขาในปัจจุบัน

ด้าน แมนนี่ ปาเกียว อดีตแชมป์โลก 8 รุ่น ก็เคยออกมาพูดถึงไฟต์ดังกล่าวว่า “ผมพยายามบอกผู้ตัดสินอยู่ตลอดว่า ‘ดูตาของเขาสิ ดูบาดแผลของเขาสิ’ ผมไม่อยากทำให้เขาได้รับบาดเจ็บหนัก นั่นไม่ใช่เรื่องของการชกมวยแล้ว”