เอแด็ง อาซาร์ ตำนานจอมทัพ เชลซี ประกาศแขวนสตั๊ดเลิกเล่นเป็นทางการเรียบร้อยแล้วในวันนี้ (10 ต.ค.) ด้วยวัยเพียง 32 ปีเท่านั้น ภายหลังถูกปล่อยออกจาก เรอัล มาดริด หลังจบซีซันก่อน และไม่มีต้นสังกัดใหม่อยู่ในซีซันปัจจุบัน
ในช่วงท็อปพีกกับ เชลซี ระหว่างปี 2012-2019 อาซาร์ ลงสนาม 352 นัด ซัดไป 110 ประตู มีส่วนร่วมกับแชมป์ 6 รายการ ในจำนวนนั้นคือแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัย และยังกวาดรางวัลเกียรติยศส่วนตัวอีกหลากหลายรายการ เช่น นักเตะแห่งปี พีเอฟเอ 2014/15 หรือ นักเตะแห่งปี เชลซี 4 สมัย
อย่างไรก็ตาม จากที่ถูกยกติดหนึ่งในแถวหน้าของแข้งตัวท็อปโลก โชคชะตากลับเล่นตลกให้ อาซาร์ กลายเป็นส่วนเกินของ เรอัล มาดริด ชนิดที่ คาร์โล อันเชล็อตติ ไม่สนใจจะใช้งาน ทั้งที่ตอนซื้อเข้า (ยุค ซีเนอดีน ซีดาน) ทีมชุดขาวยอมทุ่มให้ เชลซี สูงถึง 100+40 ล้านยูโร
อาซาร์ มีทั้งปัญหาบาดเจ็บ, สภาพความฟิต และปัญหาสภาพจิตใจ จนทำให้ช่วงเวลากับ เรอัล มาดริด เป็นไปอย่างน่าลืมเลือน ลงสนามเพียง 76 นัดในระยะ 4 ปี โดยไม่มีซีซันไหนที่ได้เล่นมากกว่า 23 นัด
จนในซัมเมอร์ที่ผ่านมา จอมทัพเบลเยียมถูกฉีกสัญญาปล่อยออกจาก เรอัล มาดริด และไม่มีการเซ็นสัญญากับสโมสรใดอีก แม้จะเคยถูกเชื่อมโยงกับการย้ายไป เมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ สหรัฐอเมริกา หรือ โปรลีก ซาอุดิอาระเบีย ก็ตาม
ล่าสุดในวันนี้ อาซาร์ ประกาศเป็นทางการผ่านโซเชียลมีเดีย ถึงการเลิกเล่นในวัย 32 ปี ทิ้งความทรงจำในระดับสูงกับการเข้าสังกัดเพียง 3 สโมสรเท่านั้น อย่าง ลีลล์, เชลซี และ เรอัล มาดริด ขณะที่ในทีมชาติเบลเยียม ลงสนาม 126 นัด กดไป 33 ประตูด้วยกัน
“คุณต้องฟังเสียงตัวเองและยอมหยุดลงในเวลาที่เหมาะสม หลังจากผ่านไป 16 ปีและลงเล่นไปมากกว่า 700 นัด ผมได้ตัดสินใจยุติเส้นทางนักฟุตบอลอาชีพเอาไว้ที่ตรงนี้”
“ผมสามารถตระหนักถึงความฝันของตัวเอง ผมได้เล่นและสนุกไปกับสนามหลายแห่งทั่วโลก ระหว่างอาชีพของผม ผมโชคดีที่ได้พบกับผู้จัดการทีม, โค้ช และเพื่อนร่วมทีมที่ยอดเยี่ยม ขอบคุณทุกคนสำหรับช่วงเวลาดีๆเหล่านี้ ผมจะคิดถึงทุกคน”
“ต้องขอบคุณเป็นพิเศษต่อครอบครัว, เพื่อน, ที่ปรึกษา และผู้คนที่อยู่ใกล้ชิดผมทั้งในช่วงเวลาที่ดีและไม่ดี สุดท้ายนี้ ผมขอขอบคุณแฟนๆทุกคนที่ติดตามผมมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา และสำหรับกำลังใจในทุกๆที่ที่ผมเคยเล่น”
“ตอนนี้เป็นเวลาที่จะเพลิดเพลินไปกับกลุ่มคนที่ผมรัก และมีประสบการณ์ใหม่ๆ แล้วเจอกันนอกสนามนะเพื่อนๆ”