เมสัน กรีนวู้ด หัวหอกจอมฉาว ดีกรีทีมชาติอังกฤษ 1 นัด ร่ายยาวอำลา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างเป็นทางการ ภายหลังโดนต้นสังกัดฉีกสัญญาปล่อยออกจากทีม เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
กรีนวู้ด ถูกแบนจากสโมสรจนไม่ได้เล่นมาตั้งแต่ ม.ค. 2022 หลังจากติดคดีความนอกสนาม ข้อหาพยายามข่มขืน, กักขังหน่วงเหนี่ยว และบังคับขืนใจแฟนสาว และแม้ศาลจะตัดสินให้เขาพ้นผิดทุกข้อกล่าวหาแล้ว เมื่อช่วงต้นปี แต่ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ยังคงยืนโทษแบนไว้ต่อ พร้อมกับทำการสอบสวนเป็นการภายในเพิ่มเติม
และภายหลังเกิดกระแสต่อต้านจากแฟนๆ ค่อนข้างมาก ทีมปีศาจแดงก็ออกแถลงการณ์ปล่อย กรีนวู้ด ออกจากสัญญาในลักษณะ “ด้วยความเห็นชอบจากทุกฝ่าย” แม้จะมีการตั้งข้อสังเกตจากสื่อว่า การโละทิ้งหัวหอกวัย 21 จากสัญญาที่เหลืออยู่อีก 2 ปี จะผิดต่อข้อบังคับ เมื่อข้อกล่าวหาทางกฎหมายยุติด้วยความพ้นผิดไปแล้ว ก็ตาม
ให้หลังจากการโดนปล่อยตัว กรีนวู้ด ก็ร่ายคำอำลาต้นสังกัดที่อยู่มาตั้งแต่เป็นเยาวชนอายุ 6-7 ขวบ เช่นกัน “ผมอยากเริ่มด้วยการพูดว่า ผมเข้าใจว่าผู้คนจะตัดสินผมด้วยเพราะสิ่งที่พวกเขาได้เห็นและได้ยินทางโซเชียลมีเดีย และผมรู้ว่าผู้คนจะคิดถึงสิ่งที่เลวร้ายที่สุด”
“ผมถูกเลี้ยงดูขึ้นมาด้วยรู้ชัดว่าความรุนแรงหรือการทำร้ายในความสัมพันธ์ใดๆ ก็ตาม เป็นเรื่องผิด ผมไม่ได้ทำในสิ่งที่ผมถูกกล่าวหา และในเดือนกุมภาพันธ์ ผมก็ได้รับการยกฟ้องทุกข้อกล่าวหาไปแล้ว”
“อย่างไรก็ตาม ผมยอมรับแต่โดยดีว่าผมได้ทำผิดพลาดในความสัมพันธ์ของผม และผมยินดีรับผิดชอบในส่วนของผม ในสถานการณ์ที่นำไปสู่การโพสต์ทางโซเชียลมีเดีย ผมกำลังเรียนรู้ที่จะเข้าใจในความรับผิดชอบของผม ที่จะต้องเป็นตัวอย่างที่ดีในฐานะนักฟุตบอลอาชีพ และผมโฟกัสไปที่ความรับผิดชอบใหญ่ในการเป็นคุณพ่อ เช่นเดียวกับการเป็นคู่ครองที่ดี”
“การตัดสินใจในวันนี้ เป็นส่วนหนึ่งของขั้นตอนการทำงานร่วมกันระหว่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ครอบครัวของผม และตัวผมเอง การตัดสินใจที่ดีที่สุดสำหรับเราทุกฝ่าย นั่นคือการที่ผมได้ดำเนินอาชีพบนเส้นทางฟุตบอล ไปจากโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ไปยังที่ที่การมีผมในทีมจะไม่เป็นสิ่งที่ทำให้สโมสรไขว้เขว”
“ต้องขอบคุณสโมสรสำหรับการสนับสนุนนับตั้งแต่ผมเข้าร่วมทีมตอนอายุ 7 ขวบ มันจะมีส่วนหนึ่งในตัวผมเสมอนั่นคือ ยูไนเต็ด”
“ผมขอขอบคุณอย่างมากเช่นกันต่อครอบครัวของผม และคนที่ผมรัก สำหรับการสนับสนุน ตอนนี้มันเป็นผมที่จะต้องตอบแทนความเชื่อมั่นที่พวกเขาได้แสดงออกมา ผมตั้งใจที่จะเป็นนักฟุตบอลที่ดีขึ้น เป็นคนที่ดีขึ้น และใช้พรสวรรค์ของผมในแง่บวก ทั้งในและนอกสนามต่อไป”